ประวัติของนักปั่นหนุ่ม Simon Hutchinson

เรื่องราวที่สุดแสนประทับใจที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนมาแล้วทั่วโลก ก็เห็นจะเป็นเรื่องราวของนักปั่นจักรยานหนุ่ม Simon Hutchinson ที่เดินทางด้วยการปั่นจักรยานมาแล้วทั่วโลก นักปั่น จักรยานที่ปั่นจักรยานท่องเที่ยวไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่างที่ทราบกันดีว่าการปั่นจักรยานก็ถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งแต่ใครจะคิดว่าการปั่นจักรยานจะกลายมาเป็นเรื่องราวการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของนัก ปั่นจักรยานหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นรวบรวมทั้งพลังกายพลังใจที่มีเริ่มออกเดินทางตามหาความฝันที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระเพ้อฝันแต่สำหรับหนุ่ม Simon การปั่นจักรยานท่องเที่ยวไปตามที่ใจตนเอง ต้องการนั้นถือเป็นการเติมเต็มความฝันของเขา อีกทั้งยังเป็นความท้าทายอะไรใหม่ ๆ ให้เขาได้ออกไปเผชิญพบเจอสิ่งต่าง ๆ ด้วยตาของตนเอง

เรื่องราวการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของหนุ่ม Simon นั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันอันยิ่งใหญ่ที่เส้นทางการแข่งขันมีไปรอบโลก เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันที่มีชื่อว่า                    “ World Cycle Racing- Grand Tour ” การแข่งขันที่ทรหดครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นที่เมือง London ประเทศอังกฤษโดยระยะทางรวมอย่างต่ำอยู่ที่ 18,000 ไมล์ ( หรือ 28,800 กิโลเมตร) ระยะเวลาการแข่งขันมีด้วยกันทั้งหมด 5 เดือน ซึ่งผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้จะถูกบันทึกสถิติลงใน Guinness World Records ว่าเป็นผู้ที่แข่งขันที่เร็วที่สุดที่สามารถปั่นจักรยานรอบโลกได้ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องแข่งขันปั่นไปตามเข็มนาฬิกาและจะสิ้นสุดการแข่งขันเมื่อกลับมาที่จุดเดิมคือ London นั่นเอง ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ Simon ได้ใช้เวลาไป 154 วันและการแข่งขันสิ้นสุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม หนึ่งในตอนระหว่างการแข่งขันตอนถึงที่จุด Mexico หนุ่ม Simon ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ ผมก็เป็นเพียงนักแข่ง Irish คนหนึ่งที่หวังจะได้เห็นธงชาติของผมโบกสะบัดอีกครั้ง ”และในที่สุดความฝันเล็ก ๆ ของหนุ่ม Irish คนหนึ่งผู้ที่ชื่นชอบในเสียงดนตรีแต่มาตามความฝันกับการปั่นจักรยานของตนเองในที่สุด Simon ก็ทำสำเร็จ เขาทำให้ชาว Irish ได้ภาคภูมิใจกับความสามารถของเขา

จากเรื่องราวความฝันของ Simon ก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวความพยายามความมุ่งมั่นที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้หมดหวังหมดกำลังใจ ว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากเรายังมีความเชื่อและความพยายาม” หากเราไม่หมดหวังวันหนึ่งเราก็จะถึงความฝันอยากให้เรื่องราวของ Simon ได้จุดประกายความฝันให้ทุกได้ออกมาทำตามฝันเพื่อสักวันฝันของเราจะเป็นจริงดังเช่นที่ Simon ทำสำเร็จได้เช่นเดียวกัน