การแข่งขันจักรยานเป็นการแข่งกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่มีรายการแข่งขันหลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นจักรยานแบบดาวน์ฮิล ไทม์ไทรอัล จักรยานในร่ม จักรยานลีลา จักรยานวิบาก หรือแม้แต่จักรยานผาดโผนก็ใช่เหมือนกัน จักรยานประเภทลู่ก็เป็นการแข่งขันจักรยานรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก มาดูกันว่าการแข่งขันแบบนี้มีอะไรกันบ้าง
การแข่งขันแบบเดี่ยว
แบบแรกชื่อเป็นทางการว่า Individual Sprint แปลแบบไทยๆได้ว่าการแข่งขันแบบเดี่ยว แข่งกันว่าใครเร็วกว่ากัน การแข่งขันก็คือ การแข่งจะเป็นแบบ 1 ต่อ 1 แข่งกัน 3 รอบ ใครเร็วกว่าก็ชนะไป แม้ว่าจะดูง่ายๆ แต่เอาจริงการแข่งแบบนี้เป็นการต่อสู้ทางด้านร่างกาย กำลังใจ แท็คติค เป็นอย่างมาก หรือบางครั้งก็เป็นการต่อสู้เชิงจิตวิทยา(จดๆจ้องๆเพื่อข่มกัน หรือดูเชิง) อีกด้วย
ขี่จักรยานไล่จับ
การแข่งขันจักรยานแบบต่อไปคือ Individual Pursuit หรือแปลให้เข้าใจได้ว่า การขี่จักรยานแบบไล่จับนั่นเอง วิธีการแข่งขันก็คือ จะเป็นแข่งแบบ 1 ต่อ 1 เริ่มต้นคนละฝั่งของสนาม เมื่อปล่อยตัวแล้วนักกีฬาต้องขี่จักรยานให้ทันคู่ต่อสู้ หรือไม่ก็ทำเวลาต่อรอบให้ดีกว่า จึงจะเป็นผู้ชนะ โดยระยะการแข่งขันต่อรอบ และจำนวนรอบจะแตกต่างกันระหว่างชายแหละหญิง การแข่งขันแบบนี้ยังมีประเภททีมด้วยวิธีการจะแตกต่างไปโดยจะนับเวลาจากล้อหน้าของคนที่ 3 ของทีมเวลาเข้าเส้นชัย
แข่งขันความเร็วแบบทีม
การแข่งขันแบบต่อไปเป็นการแข่งขันทำความเร็วแบบทีม (คล้ายกับแบบแข่ง 1 ต่อ 1 ) แต่ว่าเพื่อความปลอดภัยเลยปรับเปลี่ยนกติกาเล็กน้อย แต่นับว่าแปลกดี กติกาคือ นักกีฬาจะต้องแข่งขันประเภททีม 3 คน แข่งกัน 3 รอบเมื่อขี่ครบรอบที่ 1 แล้วคนแรกต้องฉีกตัวออกไป พอครบรอบที่ 2 คนต่อไปก็ทำเช่นเดิม แล้วปล่อยให้คนสุดท้ายขี่เข้าเส้นชัยไปคนเดียว
Time Trial
การแข่งแบบไทม์ไทรอัล ก็ไม่มีอะไรมาก แข่งกันในระยะทางที่กำหนด ชายจะอยู่ที่ 1 กิโลเมตร ส่วนหญิงจะเป็น 500 เมตร ใครทำเวลาได้น้อยสุดเป็นผู้ชนะ
Keirin
การแข่งขันแบบนี้ชื่อว่า เคริน ต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น การแข่งจักรยานประเภทนี้จะคล้ายกับการแข่งม้า กติกาการแข่งขันจะปล่อยจักรยานพร้อมกัน 6-8 คน จากนั้นให้ออกตัวพร้อมกัน แต่ว่าจะมีจักรยานนำหน้าก่อน เมื่อเหลือ 3 รอบสุดท้ายจักรยานนำจะถอยออกไปให้นักกีฬาแข่งกัน ใครเข้าเส้นชัยก่อนชนะ
Omnium
การแข่งขันแบบนี้ออกแบบมาทีหลังรายการอื่น เป็นการแข่งขันที่เอาการแข่งขันแบบอื่นมารวมกันใช้เวลาการแข่งประมาณ 2 วัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งแบบเดี่ยว การแข่งแบบไทม์ไทอัล การแข่งแบบสปรินท์ เป็นต้น ผู้ชนะรายการนี้ต้องเป็นผู้มีความสามารถด้านจักรยานทุกรูปแบบอย่างแท้จริง